ปรับสภาพน้ำให้เป็นกรดอ่อนๆ ก่อนเติมยา ปุ๋ยเกร็ดหรือฮอร์โมน

น้ำเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิตของมนุษย์  สัตว์ และสิ่งมีชิวิตอื่นๆ ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งพืช มีการนำ น้ำ เข้ามาเกี่ยวข้องอย่างมากมาย ตั้งแต่เริ่มต้นปลูกก็ต้องรดน้ำ  และรดไปเรื่อย ๆ จนกว่าต้นจะโตสมบูรณ์และเก็บเกี่ยวผลผลผลิตได้ หรืออาจจะเลิกรดเมื่อต้นเขาสูงใหญ่และรากสามารถที่จะเจริญเติบโตหาอาหารไปได้ไกล ๆ จนสามารถหาแหล่งน้ำได้เอง เจ้าของจึงไม่ต้องมาคอยรดให้อยู่ตลอดเวลา แต่ถ้าเข้าหน้าแล้งก็มิอาจที่จะนิ่งดูดายอยู่ได้ ในพื้นที่ที่แห้งแล้งเจ้าของก็อาจจะต้องนำน้ำมารดให้เหมือนเดิม ถึงแม้ว่าต้นจะสูงใหญ่แล้วก็ตาม

 

นอกจากเราจะใช้น้ำรดต้นไม้เพื่อให้ความชุ่มชื้นและละลายสารอาหารในดินแล้ว   เรายังคงใช้น้ำเป็นตัวทำละลาย ปุ๋ย ยา และอาหารทางใบให้แก่เขาอีกทางหนึ่ง ดังนั้นจึงต้องพิถีพิถันในการปรับปรุงสภาพน้ำก่อนที่จะผสมกับ ปุ๋ย ยา และฮอร์โมนต่างๆ  มิฉะนั้นพืชอาจจะมิได้รับสารอาหารตามที่ต้องการหรือตามที่เราใส่เข้าไป เพราะน้ำกระด้าง เป็นด่าง จะมีคุณสมบัติในการทำลายฤทธิ์ของปุ๋ย ยา และฮอร์โมน ให้เสื่อมสลายหายไปบางส่วน (Alkaline Hydrolysis) ทำให้เราสิ้นเปลืองต้นทุนปุ๋ยยาเพิ่มขึ้นเพราะพืชจะได้รับสารอาหารได้ไม่เต็มที่ ทำให้ต้องฉีดพ่นบ่อยขึ้น

 

น้ำที่เหมาะสมต่อการดูดซึมธาตุอาหารของพืชและเหมาะสมต่อการเพิ่มประสิทธิภาพของปุ๋ย ยา และฮอร์โมน จะต้องอยู่ในสภาพวะของกรดอ่อนๆ คือมีค่าพีเอชอยู่ที่  5.5  หลังจากที่ผสมปุ๋ยยาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นควรมีการตรวจเช็คค่าความเป็นกรดเป็นด่างของน้ำให้ดีเสียก่อนที่จะทำการผสมหรือฉีดพ่นปุ๋ย ยา และฮอร์โมน เพื่อป้องกันการทำลายฤทธิ์ยาให้เสียหายได้

 

เราสามารถที่จะใช้น้ำส้มสายชู  มะนาว หรือกรดต่าง ๆ ที่ไม่เป็นอันตรายรุนแรงต่อมนุษย์ มาใช้ในการปรับค่าพีเอชของน้ำก็ได้ แต่อาจจะพบกับปัญหาต้นทุนที่สูงอย่างเช่น ถ้าจะฉีดพ่นให้แก่พืชในพื้นที่ขนาดใหญ่ ซึ่งจะต้องใช้น้ำ 200 ลิตร หรือเป็น 1,000 ลิตรขึ้นไป  ซึ่งอาจจะต้องใช้มะนาวหลายร้อยลูก หรือจะใช้น้ำส้มสายชูก็อาจจะใช้หลายสิบขวดซึ่งต้นทุนต่อปี๊ปก็ค่อนข้างจะสูง หรือจะใช้กรดอื่นๆ ที่เป็นอันตรายไม่รุนแรงแต่ชาวบ้านร้านตลาดทั่วไปก็อาจจะไม่ค่อยรู้จักหรือหาซื้อก็ยากลำบาก หรือไปซื้อกรดที่เป็นอันตรายรุนแรงมาใช้ก็อาจจะเป็นอันตรายแก่ตนเองและคนในครอบครัวได้  ดังนั้น จึงอยากจะแนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ของชมรมฯอีกอย่างหนึ่งทดแทนนั่นคือ ซิลิสิค แอซิด (http://www.thaigreenagro.com/product/order.aspx?productID=95 ) เพราะอัตราการใช้ก็จะประหยัดกว่าการใช้กรดชนิดอื่นๆ  เพราะใช้เพียง 2.5 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร และประโยชน์ที่เราจะได้รับเพิ่มเข้าไปให้แก่พืช โดยนอกจากจะได้ประโยชน์จากการปรับสภาพน้ำแล้วยังได้เรายังได้แร่ธาตุ ซิลิก้า หรือซิลิคอน ซึ่งจะช่วยทำให้ผิวเซลล์พืชแข็งแกร่ง ต้านทานโรค ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันพื้นฐานให้แก่พืชเพื่อลดการเกิดโรคได้เป็นอย่างดี

 

มนตรี   บุญจรัส

www.thaigreenagro.com

Leave a comment